การแข่งฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก เมืองทอง ยูไนเต็ด พบ บีอีซี เทโร ศาสนวันที่6 ธ. ค. 2558 2015-12-06 Asia/Bangkok การแข่งฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก เมืองทอง ยูไนเต็ด พบ บีอีซี เทโร ศาสน https://www. allthaievent. com/event/9356/ สนาม เอสซีจี สเตเดี้ยม เมืองทองฯ สถานที่ ติดตามข้อมูลงานอีเว้นท์ได้ทาง Facebook: ข้อมูลอัพเดตอีเว้นท์จาก Facebook แสดงความคิดเห็น / ประชาสัมพันธ์ เกาะกระแสข่าว HOT คมชัดลึก เลขเด็ด 16/10/65 "ตุ๊กกี้" ขนเพื่อนดารา 12 ชีวิต ทำบุญ ทอดกฐิน สร้างกำแพงวัด ที่ จ. เชียงใหม่ ยอดทำบุญทั้งหมด 3025072 บาท คอหวย ตีเลขเด็ด แผงลอตเตอรี่... บ้านเมือง คึกคักก่อนหวยออก! แห่ขอโชคลาภศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่-ปู่เจ้าเขาเขียว เลขเด็ดตรงกัน.
ร. หนองจอกพิทยานุสรณ์ก็ได้เปลี่ยนชื่อเป็นหนแรกเป็น สโมสรฟุตบอลไข่มุกดำหนองจอก[2] โดยได้วีระ มุสิกพงศ์ อดีตนักการเมือง เข้ามาทำทีม แต่แค่ฤดูกาลเดียวเมื่อไม่ประสบความสำเร็จวีระ ก็เลิกลาไปโดยที่ทีมยังคงอยู่ในลีกดิวิชัน 1 (ไทยพรีเมียร์ลีก ปัจจุบัน) ต่อไป การเข้าสู่ระบบลีก ฤดูกาลต่อมาของลีกดิวิชัน 1 2546 - 2547 ทีมเปลี่ยนชื่ออีกครั้งตามกลุ่มที่เข้ารับทำทีมต่อคือ สโมสรฟุตบอลหลักทรัพย์โกล์เบล็ค หนองจอก โดยมีสมศักดิ์ เซ็นเชาวนิช เป็นผู้จัดการทีม แต่ปีนั้นทีมทำผลงานได้ย่ำแย่ จนสุดท้ายก็ต้องตกชั้นไปเล่นในถ้วยพระราชทานประเภท ข ในฤดูกาล 2547-2548 โดยกลับไปใช้ชื่อเดิม ร. หนองจอกพิทยานุสรณ์ แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร ต่อมา สมาคมฟุตบอลฯ ต้องการยกระดับลีกการแข่งขันในประเทศของไทย ให้เป็นสากลมากขึ้นจึงก่อตั้งลีกดิวิชัน 2 ขึ้นมาโดยนำทีมจากถ้วยพระราชทาน ข และ ค มาผสมรวมกันเพื่อแข่งขันในลีกนี้ในฤดูกาล 2549 - 2550 ซึ่ง ร.
หนองจอกพิทยานุสรณ์ได้สิทธิ์เข้าแข่งขันด้วย และปีนั้นกับลีกดิวิชัน 2 ของไทยครั้งแรกชื่อทีมเมืองทองหนองจอก ยูไนเต็ด โดยผู้สนับสนุนทีมคือ ระวิ โหลทอง ที่รับตำแหน่งประธานสโมสร ขับไม่เป็น ยุคเริ่มต้นความสำเร็จ เริ่มต้นที่ปี พ. ศ. 2550 ปีนั้นทีมใช้ผู้จัดการทีมอย่างนพพร เอกศาสตราคุมทีม โดยมีโรเบิร์ต โปรคูเรอร์เป็นผู้จัดการทีม ปีนั้นเมืองทองหนองจอก ยูไนเต็ดได้แชมป์ลีกดิวิชัน 2 ครั้งแรกพร้อมได้สิทธิ์ขึ้นไปเล่นลีกดิวิชัน 1 ในปี พ. 2551 ในปีต่อมา ผู้จัดการทีมอย่างสุรศักดิ์ ตังสุรัตน์ สามารถพาทีมคว้าแชมป์ลีกดิวิชัน 1 ประจำปี 2551 มาครอบครองได้สำเร็จ พร้อมขึ้นชั้นมาเล่นไทย พรีเมียร์ลีก 2552 (ไทยลีก ครั้งที่ 13) ไทยพรีเมียร์ลีก 2552 อันเป็นครั้งแรกของทีมเมืองทองหนองจอก ยูไนเต็ด ที่ได้ขึ้นมาเล่นลีกสูงสุดของประเทศ นับจากก่อตั้งสโมสรมา 20 ปีนั้น ปีนั้น เมืองทองหนองจอก ยูไนเต็ดสร้างประวัติศาสตร์เป็นทีมแรกที่สามารถคว้าแชมป์ฟุตบอลลีกของไทยไล่จากลีกดิวิชัน 2, ดิวิชัน 1 จนถึงลีกสูงสุดโดยใช้เวลาเพียง 3 ปี แนะนำแหล่งข้อมูลข่าวสารฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษมากที่สุดในประเทศ ผลบอลพรีเมียร์ลีก ที่นี้: http://1800premier.
2558 ช้าง เอฟเอคัพ นัดชิงชนะเลิศ บุรีรัมย์ เจอกับ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่สนามศุภชลาศัยในกรุงเทพมหานคร จักรพันธ์ทำหนึ่งประตู ช่วยให้ บุรีรัมย์ เอาชนะ เอสซีจี เมืองทอง ไปได้ 3–1 ทำให้บุรีรัมย์คว้าแชมป์ ช้าง เอฟเอคัพ สมัยที่ 4 และคว้าแชมป์รายการที่ 5 ของฤดูกาล ได้สำเร็จ[7] ฤดูกาล 2559[แก้] ในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ พ. 2559 ฟุตบอลถ้วยพระราชทาน ก บุรีรัมย์ เจอกับ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่สนามศุภชลาศัยในกรุงเทพมหานคร จักรพันธ์ทำหนึ่งประตู ช่วยให้ บุรีรัมย์ เอาชนะ เอสซีจี เมืองทอง ไปได้ 3–1 ทำให้บุรีรัมย์คว้าแชมป์ ถ้วยพระราชทาน ก สมัยที่ 4 ได้สำเร็จ[8] ต่อมาในวันที่ 18 มิถุนายน พ. 2559 จักรพันธ์ทำประตูแรกในไทยลีก ฤดูกาล 2559 ในนัดที่ บุรีรัมย์ เปิดบ้านเสมอกับ บีอีซี เทโรศาสน 3–3[9] ต่อมาในวันที่ 22 มิถุนายน พ.
2559 จักรพันธ์ยิง 2 ประตูในลีก ในนัดที่ บุรีรัมย์ บุกไปเสมอกับ ศรีสะเกษ ที่สนามศรีนครลำดวน 2–2[10] ฤดูกาล 2560[แก้] ในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ พ. 2560 จักรพันธ์ ทำประตูแรกในไทยลีก ฤดูกาล 2560 ช่วยให้ บุรีรัมย์ บุกไปเอาชนะ ราชนาวี ที่สนามกองทัพเรือ (สัตหีบ) 2–1[11] ต่อมาในวันที่ 27 พฤษภาคม พ. 2560 จักรพันธ์ ทำประตูที่ 2 ในลีก ในนัดที่บุรีรัมย์เปิดบ้านเอาชนะ แบงค็อก ยูไนเต็ด ไปได้ 2–1[12] ต่อมาในวันที่ 1 กรกฎาคม พ. 2560 จักรพันธ์ทำประตูที่ 3 ในลีก ช่วยให้บุรีรัมย์บุกไปเอาชนะ นครราชสีมา ที่สนามเฉลิมพระเกียรติฯ 2–0 นับเป็นการบุกไปเอาชนะ นครราชสีมา ถึงถิ่น เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร[13][14] ต่อมาในวันที่ 24 กันยายน พ.
อีก 3 สมัย แบ็คขวา: “เจ้าโด” ทริสตอง โด “เจ้าโด” ทริสตอง โด แบ็คขวาดีกรีทีมชาติไทย ขณะนั้นเจ้าตัวย้ายมาอยู่กับทีมระหว่างปี 2014-2016 เป็นช่วงที่ฟอร์มกำลังรุ่งขึ้นมา ต่อเนื่องจากการคว้าแชมป์ซีเกมส์ ปี 2015 กับทีมช้างศึก และมีส่วนสำคัญพาทีมได้แชมป์ ลีก คัพ 2015 อีกด้วย ก่อนที่เจ้าตัวย้ายออกจากทีมไปซบ “กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด จนเป็นแกนหลักของทีมพาทีมคว้าแชมป์ไทยลีก 2016 ได้อย่างยอดเยี่ยม และยึดตำแหน่งตัวจริงของทีมได้ถาวรจนถึงปัจจุบัน ปราการหลัง: “เจ้าเก่ง” อดิศร พรหมรักษ์ “เจ้าเก่ง” อดิศร พรหมรักษ์ แข้งจากจังหวัดสงขลา แดนใต้ ที่โชว์ฟอร์มเด่นขึ้นมาสมัยยังวัยรุ่น อยู่กับทีมระหว่างปี 2014-2016 นับว่าเป็นกองหลังฮาร์ดแมน มีส่วนสำคัญในการพาทีมคว้าแชมป์โตโยต้า ลีก คัพ 2015 ด้วยการเอาชนะเหนือ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้อย่างยอดเยี่ยม ก่อนจะย้ายออกจากทีมในฤดูกาล 2016 เลกสอง ไปซบทีม “กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด และสามารถพาทีมคว้าแชมป์ไทยลีก 2016 ได้อีกด้วย มิหนำซ้ำในนามทีมชาติไทยเจ้าตัวก็โดดเด่นมากในตำแหน่งแบ็คขวาในยุคของ มิโลวาน ราเยวัช อีกด้วย ถือเป็นเพชรเม็ดงามที่มังกรไฟคายออกมาจากทีม ปราการหลัง: มิก้า ชูนวลศรี อดีตเซ็นเตอร์ฮาร์ฟจาก “กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ลูกครึ่งไทย-เวลส์ ก่อนหน้านี้เคยได้แชมป์ไทยลีกปี 2009 มาแล้ว กับเมืองทองฯ จากนั้นก็ย้ายมาอยู่กับทีมมังกรไฟ ในช่วงปี 2010-2011 โดย มิก้า ชูนวลศรี ช่วงนั้นเจ้าตัวเล่นเป็นแบ็คขวา ต่อมาโยกไปเล่นเป็นกองหลังตัวกลาง จนแกร่งขึ้น ก่อนจะย้ายออกไปอยู่กับทีม แบงค็อก ยูไนเต็ด ในปัจจุบัน แบ็คซ้าย: “เจ้าบาส” พีระพัฒน์ โน้ตชัยยา แบ็คซ้ายทีมชาติไทยในปัจจุบัน เริ่มเล่นกับทีมมังกรไฟ ช่วงปี 2011-2015 เริ่มเล่นตอนอายุเพียง 18 ปี เท่านั้น ก่อนถูกทีมปล่อยตัวไปหาประสบการณ์กับ บางกอก เอฟซี ตอนอายุ 19 ปี และก็กลับมาสู่ทีมบีอีซี เทโรฯ อีกครั้งในปี 2013 และสามารถโชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมเป็นตัวแทนของแข้งรุ่นพี่ๆ ในตำแหน่งแบ็คซ้ายได้ ไม่ว่าจะเป็น ชยพัทธ์ กิจพงษ์ศรีธาดา หรือ รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค เป็นต้น จากนั้นก็เล่นได้ยอดเยี่ยมจนมีชื่อติดทีมชาติไทยชุดใหญ่ ในยุคของ “ซิโก้” ก่อนจะย้ายไปค้าแข้งกับทีม “กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด และเป็นหนึ่งในนักเตะชุดแชมป์ไทยลีก 2016 อีกคน กองกลางตัวรับ: “เจ้าตั้ม” ธนบูรณ์ เกษารัตน์ ดาวเตะค่าตัว 50 ล้านบาทในปัจจุบัน อดีตเคยอยู่กับทีมบีอีซี เทโร ศาสน ช่วงปี 2011-2015 ตอนนั้น “เจ้าตั้ม” ธนบูรณ์ เกษารัตน์ อายุ 18 ปี หลังจากนั้นเพียง 5 ปี เจ้าตัวก็แจ้งเกิดกับทีมได้สำเร็จ ด้วยการยึดตำแหน่งตัวจริงในทีมได้ และติดทีมชาติไทยชุดแชมป์ซีเกมส์ 2015 และแชมป์อาเซียน คัพ 2014 และ 2016 ตามด้วยแชมป์คิงส์คัพ ครั้งที่ 44 และ 45 ตามมา โดยก่อนหน้านี้กับสโมสรบีอีซี เทโร ศาสน เจ้าตั้ม เคยได้แชมป์ลีก คัพ 2016 มาแล้วด้วย และปี 2016 เจ้าตัวก็ย้ายไปอยู่กับ “กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด จนเป็นตัวหลักพาทีมคว้าแชมป์ไทยลีก 2016 อีกด้วย ต่อมาก็ย้ายไปอยู่กับ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ในปี 2017 ด้วยค่าตัวที่แพงที่สุดในประเทศไทย จอมทัพเพลย์เมกเกอร์: “เมสซี่เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ “เมสซี่เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ อยู่กับทีมมังกรไฟ ในปี 2012-2015 และเป็นอีกหนึ่งเพชรเม็ดงามที่แสนล้ำค่าของวงการฟุตบอลไทยเลยก็ว่าได้ ด้วยสไตล์การเล่นที่หาตัวจับยาก เท้าไว ครองบอลเหนียวแน่น จ่ายบอลออกบอลเท้าสู่เท้าได้อย่างเนียนตา พาทีมมังกรไฟ ได้แชมป์ลีก คัพ มาแล้วในปี 2016 หลังจากนั้นก็ติดทีมชาติไทยชุดใหญ่ได้แชมป์ซูซูกิ คัพ 2014 และ 2016 ต่อมาไม่นานก็ย้ายไปสู่ทีม “กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด จนเป็นตัวหลักของทีมพาทีมผงาดคว้าแชมป์ไทยลีก 2016 ได้อย่างยอดเยี่ยมอีกคน ก่อนที่จะย้ายไปเล่นในญี่ปุ่น กับทีม คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ด้วยสัญญายืมตัว 1 ปีครึ่ง ปีกซ้าย: “เจ้าแคมป์” สรรวัชญ์ เดชมิตร กัปตันทีม แข้งเทพ แบงค็อก ยูไนเต็ด และ ติดทีมชาติไทยชุดใหญ่ล่าสุด เคยอยู่กับทีม บีอีซี เทโร ศาสน ในปี 2012-2013 ด้วยสรีที่บอบบาง “เจ้าแคมป์” สรรวัชญ์ เดชมิตร เริ่มต้นการค้าแข้งกับทีมในศึกเอสลีก ของประเทศสิงคโปร์ ก่อนจะกลับมาอยู่กับ บางกอกกล๊าส เอฟซี ในเวลาต่อมา ทว่าระดับสโมสรยังไม่เคยได้แชมป์อะไรเลย และตอนนี้เขาอยู่กับ แบงค็อก ยูไนเต็ด ทีมรองแชมป์ไทยลีก 2016 ถือเป็นจอมแอสซิสต์แถวหน้าของไทยลีกอีกคน ปีกขวา: “เจ้าโน๊ต” จักรพันธ์ แก้วพรม ในอดีต เจ้าตัวเล่นในตำแหน่งปีกริมเส้นมาก่อน และอยู่กับทีมมังกรไฟในปี 2007-2009 ถือเป็นจุดเริ่มต้นการค้าแข้งที่ดีของ “เจ้าโน๊ต” ก่อนจะย้ายไปอยู่กับ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด พาทีมคว้าแชมป์ไทยลีกได้ 1 สมัย จากนั้นก็ย้ายข้ามฝากไปซบทีม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จนเป็นแข้งตัวหลักของทีมตลอด 7 ปีที่อยู่ที่ไอโมบาย สเตเดี้ยม คว้าแชมป์ไทยลีก 4 สมัย, เอฟเอ คัพ 2 สมัย และ ลีก คัพ 4 สมัย กองหน้า: “เจ้ากอล์ฟ” อดิศักดิ์ ไกรษร “เจ้ากอล์ฟ” อดิศักดิ์ ไกรษร ย้ายมาอยู่กับทีมมังกรไฟ ระหว่างปี 2015-2016 หลังจากย้ายออกจากทีม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และเจ้าตัวก็เป็นกำลังหลักสำคัญให้ทีมช่วงเปลี่ยนถ่ายอำนาจทีม ก่อนหน้านี้เขาได้แชมป์ไทยลีก กับ เซราะกราว มาแล้ว 3 สมัย ก่อนจะโยกย้ายไปอยู่กับทีม เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด และเป็นอีกหนึ่งแข้งที่อยู่ในชุดแชมป์ไทยลีก 2016 ของทัพกิเลนผยอง กองหน้า: “ลีซอ” ธีรเทพ วิโนทัย “ลีซอ” ธีรเทพ วิโนทัย ถือเป็นซุปเปอร์สตาร์ของทีมบีอีซี เทโร ศาสน เลยก็ไม่ผิด เจ้าตัวอยู่กับทีมแล้วสองครั้งในปี 2006-2008 และ 2011-2012 ก่อนจะย้ายทีมออกไปหาประสบการณ์ใหม่ๆ กับ บางกอกกล๊าส เอฟซี และ เพื่อนตำรวจ ก่อนจะมาอยู่กับทีม แบงค็อก ยูไนเต็ด ในปี 2016 และมีส่วนช่วยทีมได้รองแชมป์ไทยลีก 2016 และล่าสุดหวนคืนทัพช้างศึก ทีมชาติไทย ชุดใหญ่อีกครั้งในรอบ 3 ปี บทสรุปของเรื่องราวบทความบอลไทยในวันนี้…ยังมีผู้เล่นของทีมบีอีซี เทโร ศาสน อีกหลายคนที่เราไม่ได้เอ่ยถึงในวันนี้ ขออภัย ด้วยหากมีชื่อใครตกหล่นไป เชื่อว่าทุกคนคงจะได้ความรู้จากบทความนี้ไม่มาก็น้อย และเชื่อว่าโอกาสหน้าจะมีเรื่องราวดีๆ บทความดีๆ มาแชร์ให้อ่านกันอีกนะครับ.
(การแข่งขันทีมสำรอง) เมืองทอง ยูไนเต็ด(สำรอง) 1 - 5 บีอีซี-เทโรศาสน(สำรอง)เส้นเล็กผัดซีอิ๊ว:(การแข่งขันทีมสำรอง) เมืองทอง ยูไนเต็ด(สำรอง) 1 - 5 บีอีซี-เทโรศาสน(สำรอง)เกมนี้ทั้งสองทีมจัดผู้เล่นโดยใช้นักเตะชุดใหญ่ที่ไม่ได้ลงสนามผสมกับนักเตะเยาวชนลงสนาม บีอีซี-เทโรศาสนใช้นักเตะอย่าง ทัศนา แช่มสะอาด, ณรัฐ มุนินทร์นพมาศ, อานนท์ บุษผา, ไพศาล แสงอรุณ, ปณัย คงประพันธ์, พร้อมพงษ์ กรานสำโรง, คริสเตียน คาลาสโก้ และนักเตะชุดเยาวชนอย่าง อัครพล มีสวัสดิ์ และ ศราวุธ ผายกลางลงสนาม ขณะที่เมืองทอง ยูไนเต็ดส่งณัฐพร พันธ์ฤทธิ์, ดักโน่ เซียก้า, อมร ธรรมนาม, ไพฑูรย์ นนทะดี, รณชัย รังสิโย, ชยานันท์ ป้อมบุบผา ผสมกับนักเตะชุดเยาวชนลงสนามครึ่งแรกเมืองทองฯ ออกนำไปก่อนจากการโหม่งของชยานันท์ ป้อมบุบผา ให้เมืองทองฯนำ 1 - 0 แต่ไพศาล แสงอรุณเปิดบอลให้กับ อานนท์ บุษผาตีเสมอเป็น 1 - 1 และช่วงท้ายครึ่งแรก อัครพล มีสวัสดิ์ เปิดบอลให้คริสเตียน คาลาสโก้ยิงให้เทโรแซงนำไป 2 - 1ครึ่งหลังคริสเตียน คาลาสโก้เปิดบอลให้กับอัครพล มีสวัสดิ์แปให้เทโรนำห่างเป็น 3 - 1 หลังจากนั้นทั้งสองทีมเริ่มทยอยเปลี่ยนนักเตะเยาวชนลงสนาม และเป็นคริสเตียน คาลาสโก้หลุดเข้าไปยิงให้เทโรนำไปอีกเป็น 4 - 1 ก่อนที่คริสเตียน คาลาสโก้จะเปิดไขว้บอลให้พร้อมพงษ์ กรานสำโรงหลุดเข้าไปหลบทนงศักดิ์ พันธ์พิพัฒน์ผู้รักษาประตูเมืองทองฯยิงปิดท้ายให้ บีอีซี-เทโรศาสนชนะไป 5 - 1รายชื่อนักเตะบีอีซี-เทโรศาสน(ชุดสำรอง)+++++++++++++++++++++++++++อินทรัตน์ อภิญญากุล(วรวุฒิ แก้วผูก) ศราวุธ ผายกลาง(วรรธน์วิภู บำรุงนานิธิชนม์)++ทัศนา แช่มสะอาด++ณรัฐ มุนินทร์นพมาศ+++เอกชัย นุ้ยขาว(สิริพงษ์ เสนาะเสียง) อานนท์ บุษผา(อนุวัตร ขำเนตร)++ไพศาล แสงอรุณ++ปณัย คงประพันธ์++พร้อมพงษ์ กรานสำโรง(กิตติทัศ ปะจันทาสี)++++++++++++++++++++อัครพล มีสวัสดิ์(นะเรศ กาพย์ไกรแก้ว)++คริสเตียน คาลาสโก้ภาพการแข่งขันติดตามได้ที่นี่http://www.
[กีฬา-] บีอีซี เทโรศาสน บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ชมการถ่ายทอดสดผล 17 64 23 ต. 2564, 16:24น. เช็กโปรแกรมบอลไทยลีก ตารางบอลไทยลีก ดูบอลออนไลน์ไทยลีกวันนี้ พร้อมเวลาถ่ายทอดสด ทาง PPTV คู่ระหว่าง เมืองทอง ยูไนเต็ด
2558 ช้าง เอฟเอคัพ รอบ 16 ทีมสุดท้าย จักรพันธ์ทำหนึ่งประตู ช่วยให้ บุรีรัมย์ บุกไปเอาชนะ บางกอกกล๊าส ที่ลีโอสเตเดียม 3–1 ผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ[4] ต่อมาในวันที่ 16 กันยายน พ. 2558 โตโยต้า ลีกคัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดที่สอง จักรพันธ์ทำหนึ่งประตู ช่วยให้ บุรีรัมย์ เปิดบ้านเอาชนะ ลำพูน วอร์ริเออร์ 7–1 ผลประตูรวม 7–1 ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศได้สำเร็จ[5] ต่อมาในวันที่ 30 กันยายน พ. 2558 โตโยต้า ลีกคัพ รอบรองชนะเลิศ นัดแรก จักรพันธ์ทำหนึ่งประตู ช่วยให้ บุรีรัมย์ เปิดบ้านเอาชนะ อาร์มี่ ยูไนเต็ด ไปได้ 3–2 และในนัดที่สอง บุรีรัมย์ก็บุกไปเสมอ 2–2 ผลประตูรวม 5–4 ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ[6] ต่อมาในวันที่ 26 ธันวาคม พ.
2560[16] ฤดูกาล 2561[แก้] ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ พ. 2561 ไทยลีกนัดเปิดฤดูกาล 2561 จักรพันธ์ยิงประตูแรกในลีก ช่วยให้ บุรีรัมย์ เปิดบ้านเอาชนะ ราชบุรี มิตรผล ไปได้ 2–1[17] โดยประตูของเขา ถือเป็นประตูแรกที่เกิดขึ้นในไทยลีกฤดูกาลนี้[18] ต่อมาในวันที่ 26 พฤษภาคม พ. 2561 จักรพันธ์ทำประตูที่ 2 ในลีก ในนัดที่ บุรีรัมย์ เปิดบ้านเอาชนะ แอร์ฟอร์ซ ไปได้ 5–0 ทำให้บุรีรัมย์จบเลกแรกด้วยการเป็นจ่าฝูงได้สำเร็จ[19] ต่อมาในวันที่ 4 กรกฎาคม พ. 2561 ช้าง เอฟเอคัพ รอบ 32 ทีมสุดท้าย จักรพันธ์ยิง 2 ประตู ช่วยให้ บุรีรัมย์ เปิดบ้านเอาชนะ ลำปาง จากไทยลีก 2 ไปได้ 6–0 ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ[20] ต่อมาในวันที่ 22 กรกฎาคม พ. 2561 จักรพันธ์ทำประตูที่ 3 ในลีก ช่วยให้บุรีรัมย์บุกไปเอาชนะ ชลบุรี 2–0[21] ฤดูกาล 2562[แก้] ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.
จัดหนักจัดเต็ม! นครศรีฯ กระชากตัว วีระวุฒิ เสริมฝั่งซ้าย ... ยูไนเต็ด ในปี 2010 ก่อนพัฒนาฝีเท้าต่อและผ่านการเล่นมาแล้วหลายทีมทั้ง เมืองทอง ยูไนเต็ด, พีทีที ระยอง, บีอีซี เทโรศาสน, พีที ประจวบ และ สุพรรณบุรี
2553 เมืองทอง ยูไนเต็ด ได้ปล่อยตัว จักรพันธ์ แก้วพรม ให้กับ บุรีรัมย์ พีอีเอ[1] ฤดูกาล 2557[แก้] ในวันที่ 31 พฤษภาคม พ. 2557 จักรพันธ์ทำประตูแรกในไทยพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2557 ช่วยให้บุรีรัมย์เปิดบ้านเอาชนะ แบงค็อก ยูไนเต็ด ไปได้ 3–0 ต่อมาในวันที่ 29 มิถุนายน พ. 2557 จักรพันธ์ทำประตูที่ 2 ในลีก ในนัดที่ บุรีรัมย์ บุกไปเอาชนะ ราชบุรี มิตรผล 2–0 ต่อมาในวันที่ 5 กรกฎาคม พ. 2557 จักรพันธ์ทำประตูที่ 3 ในลีก ในนัดที่ บุรีรัมย์ เปิดบ้านเสมอกับต้นสังกัดเก่าของเขา บีอีซี เทโรศาสน 1–1[2] ฤดูกาล 2558[แก้] ในวันที่ 18 กรกฎาคม พ. 2558 จักรพันธ์ทำประตูแรกในไทยพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2558 ช่วยให้ บุรีรัมย์ บุกไปเอาชนะ กัลฟ์ สระบุรี 2–1[3] ต่อมาในวันที่ 12 สิงหาคม พ.
การจัดการเชิงกลยุทธ์และกลยุทธ์การสื่อสารทางการตลาด กรณีศึกษา บุคคลที่เป็นผู้ก่อตั้งสโมสรฟุตบอลเมืองทองหนองจอก ยูไนเต็ด โดยเป็นการก่อตั้งหลังจากทีมโรงเรียนศาสนวิทยา หรือทีมบีอีซี เทโรศาสน
"ลีซอ" โพสต์เดือดบ่นผู้ตัดสินจังหวะใบแดงปัญหา เทโร พ่าย เมืองทอง ใน ไทยลีก (คลิป)วันอาทิตย์ที่ 24 ตุลาคม 2564 ภายหลังจากเกมที่ เมืองทอง ยูไนเต็ด เปิดบ้านพลิกกลับมาเอาชนะ โปลิศ เทโร ในเกมที่ 9 ของ ฟุตบอลไทยลีก 1 ประจำฤดูกาล 2021-22 เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (วันเสาร์ที่ 23 ตุลาคม 2564) โดยหลังเกมดังกล่าว "ลีซอ" ธีรเทพ วิโนทัย ดาวยิงตัวเก่งของทีม เทโร ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวแสดงความไม่พอใจต่อคำตัดสินของ ไพโรจน์ บุญกำเนิด ผู้ตัดสินในเกมนี้ ที่ชักใบแดงไล่ อาทิตย์ บุตรจินดา ที่คล้ายกับว่าชักศอกใส่ ชาติชาย แสงดาว ในนาทีที่ 26 ของเกม และเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของเกมนี้ ทาง ลีซอ ได้ออกมาโพสต์พร้อมข้อความว่า "บอลไทยพัฒนากันอย่างต่อเนื่องเลย แต่สิ่งหนึ่งเลยที่ยังไม่พัฒนาคือ กรรมการ บอลแพ้ชนะเรื่องปกติ แต่ฟุตบอลมันจะไม่สนุก ถ้ากรรมการผู้ชี้ขาดกลางสนามขาดคุณภาพ ผิดพลาดได้ก็ไม่เคยว่าเหมือนกัน แต่ไอ้ที่ผิดพลาดแบบเหลือเชื่อในหลายๆจังหวะ ซ้ำๆซากๆมันก็ไม่สมควร ไม่ได้แพ้แล้วพาล ผลการแข่งขันยอมรับได้อยู่แล้ว ไม่ใช่ว่าไม่เคยแพ้ แต่อยากให้วงการผู้ตัดสินไทยมีการพัฒนาให้ดีขึ้น คนดีๆเก่งๆก็มี แต่หลายคนก็ไม่ไหว หน้ามึนซะด้วยที่สำคัญ" #ฝากไว้ให้คิส #ช่วยกันพัฒนาหน่อย #กรรมาการบอลไทย #บอลไทยจะได้สนุกและน่าดู ความพ่ายแพ้ของ โปลิศ เทโร ในเกมนี้ส่งผลให้ เมืองทอง เก็บ 3 คะแนนขึ้นรั้งอันดับ 4 มี 15 คะแนน ตามหลังจ่าฝูง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เพียง 4 คะแนน ขณะที่ เทโร พ่ายเป็นเกมที่ 4 ของฤดูกาล มี 9 คะแนน อยู่อันดับ 10 ของตาราง.
สปิริตผู้นำกับผลงานสุดอลังของ “โค้ชแบน” ก่อนประกาศลาออกAdvertisement ประเด็นคือ – “โค้ชแบน” ประกาศลาออกจากการคุมทีม เอสซีจีเมืองทอง ยูไนเต็ด หลังพาทีม “กิเลนผยอง” บุกไปพ่าย สโมสร พีที ประจวบ อย่างขาดลอยถึง 6-1 ในเกมไทยลีก เมื่อเย็นวันที่ 11 มี. ค. ที่ผ่านมา เกมไทยลีกนัดที่ 5 เมืองทอง ยูไนเต็ด ทีมยักษ์ใหญ่แห่งไทยลีก ที่ปีนี้ผลงานตกลงไปอย่างหนัก โดยแข่ง 4 นัด มีเพียง 7 แต้ม และต้องโคจรมาพบกับทีมน้องใหม่ไฟแรงของฤดูกาลนี้อย่าง “ต่อพิฆาต” พีที ประจวบ ภายใต้การคุมทีมของ “โค้ชวัง” ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล อดีตฮีโร่ทีมชาติไทยชุดเอเชียนเกมส์ ปี 1998 โดยผลงานที่ผ่านมาลงเล่น 4 นัด เก็บได้ 6 แต้ม หากดูจากสภาพทีมก่อนแข่งเป็นทางเมืองทองที่ดูแข็งแกร่งกว่า แต่พอเริ่มเกมกลายเป็นว่าผู้เล่นพีที ประจวบทำได้ดีกว่า และสามารถเอาชนะไปได้ด้วยสกอร์สุดช็อก 6-1 ผลการแข่งขันในเกมนี้เป็นที่กล่าวถึงอย่างมาก ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเมืองทองยูไนเต็ด ทำไมถึงทำผลงานได้ตกลงเช่นนี้ โดยหลังจบเกมยังมีเรื่องที่ช็อกมากกว่าผลการแข่งขันในนัดนี้ นั่นคือการประกาศลาออกของ “โค้ชแบน” ธชตวัน ศรีปาน กุนซือที่เคยพาเมืองทองคว้าแชมป์ในปี 2016 โดยโค้ชแบนได้ให้สัมภาษณ์หลังเกมว่า “จริงๆ แล้วมันเป็นมาตั้งแต่ต้นฤดูกาล ก็อาจเป็นที่ตัวผมด้วย เพราะน้องๆ อาจจะขาดแรงจูงใจที่จะเล่น ทั้งในเรื่องแท็กติกของเรา ในเรื่องของเกม เขาอาจไม่มีความสุขในการเล่นหรือเปล่า “เราใช้เวลาปรับจูนมาประมาณ 5 นัดแล้ว มันก็ยังไม่ดีขึ้น ความคาดหวังและความต้องการของแฟนบอลสูงด้วย เกมนี้เราแพ้เยอะ ผมเองก็รู้สึกเสียใจ และรู้สึกอายต่อความรู้สึกของแฟนบอล “จริงๆ ก็อยากจะขอแสดงความรับผิดชอบในวันนี้ เพราะเราแพ้ด้วยสกอร์ที่เยอะ ความรู้สึกที่มีต่อแฟนบอลที่เราทำให้เขาผิดหวัง แล้วก็ความคาดหวังที่อยากเห็นทีมไปได้สูงกว่านี้ “ตัวผมเองไม่สามารถคอนโทรลแท็กติกให้เด็กๆ เล่นตามที่เราต้องการ ก็ขอประกาศตรงนี้ว่าจะแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออก เพราะผลการแข่งขันสกอร์มันเยอะเกินจะรับได้ และก็เข้าใจความรู้สึกของแฟนบอลด้วย ผมว่าพวกเขาก็รับไม่ได้เหมือนกัน “เราเป็นผู้นำก็ขอรับผิดชอบด้วยการขอลาออก ณ เบื้องต้น” โดยล่าสุดทางบอร์ดบริหารของเมืองทอง ยูไนเต็ด ยังไม่อนุมัติการลาออกในครั้งนี้ และจะมีการเจรจาเพื่อปรับความเข้าใจกันอีกครั้ง ด้านประวัติส่วนตัวนั้น “โค้ชแบน” ธชตวัน (ชื่อเดิม ตะวัน) ศรีปาน เกิดเมื่อ 13 ธันวาคม พ.
2560 จักรพันธ์ทำประตูที่ 4 ในลีก ในนัดที่บุรีรัมย์บุกไปเอาชนะ ราชบุรี ที่สนามมิตรผล 2–0[15] จบฤดูกาล จักรพันธ์ยิงประตูในลีกทั้งหมด 4 ประตู มีส่วนช่วยให้บุรีรัมย์คว้าแชมป์ไทยลีกสมัยที่ 5 ได้สำเร็จ โดยเขาได้รับรางวัล "นักฟุตบอลยอดเยี่ยม โตโยต้า ไทยลีก" จากสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในงาน FA Thailand Awards and New Year Celebrations เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม พ.
ย้อนรอยอดีตแข้ง “มังกรไฟ”ขึ้นชื่อว่าเป็นทีมจอมทุ่ม หรือ เจ้าบุญทุ่ม ฉายานี้เป็นฉายาที่นักข่าวตั้งให้กับทีม “มังกรไฟ” บีอีซี เทโร ศาสน อดีตทีมยักษ์ใหญ่แถวหน้าของเมืองไทย ที่ปัจจุบันได้เปลี่ยนชื่อเป็น “โปลิศ เทโร เอฟซี” ซึ่งในอดีต ทีมมังกรไฟ เคยคว้าแชมป์ไทยลีกมาได้ 2 สมัย ในปี 2000 และ ฤดูกาล 2001-2002 และยังเคยเขย่าเวทีชิงแชมป์สโมสรระดับทวีปเอเชียมาแล้วอย่างรายการ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ด้วยการเป็นรองแชมป์ในฤดูกาล 2002-2003 อีกด้วย หลังจากนั้นก็กลายเป็นยักษ์หลับใหลห่างหายความสำเร็จไปยาวนานจนกระทั่งล่าสุด มาคว้าแชมป์ลีก คัพ ได้ในปี 2014 และ โตโยต้า พรีเมียร์ คัพ 2015 ตามลำดับ แต่เนื่องด้วยนโยบายสโมสรเมื่อมีแข้งซุปตาร์ฉายแววจนโด่งดัง ทางสโมสรก็จำยอมขายออกไปด้วยเหตุผลต่างๆ ที่เรามิอาจร่วงรู้เหตุผลได้ ทำให้ปัจจุบันทีมมังกรไฟ กลายเป็นทีมระดับกลางไปแล้ว… หลังจากที่ มร. ไบรอัน แอล. มาร์การ์ ได้ขอวางมือจากการเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ประกาศขายทีมเรียบร้อยในช่วงต้นปี 2016 ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมานักเตะในทีมต่างๆ ก็แยกย้ายออกหาทีมใหม่ที่มีความสำเร็จมากกว่า และก่อนหน้านี้ก็มีนักเตะในทีมย้ายออกจากทีมอยู่ทุกๆ ฤดูกาล เรื่องราวที่เราจะเขียนในวันนี้จะเป็นเรื่องที่นักเตะทีมมังกรไฟ ที่เคยสร้างชื่อมีใครบ้าง แล้วปัจจุบัน อยู่ที่ไหนกันแล้ว จะมีใครบ้างมาดูกันเลย หัวหน้าผู้ฝึกสอน: “โค้ชแบน” ธชตวัน ศรีปาน “โค้ชแบน” ธชตวัน ศรีปาน อดีตนักเตะเก่าของบีอีซี เทโร ศาสน หลังจากที่เจ้าตัวประกาศยุติการเล่นฟุตบอลก็ได้ผันตัวเองเข้ารับงานโค้ชในเวลานั้นเลย ช่วงปี 2009-2010 หลังจากนั้นก็สามารถพาทีมมังกรไฟ เข้าไปชิงชนะเลิศรายการ เอฟเอ คัพ กับ การท่าเรือ เอฟซี ที่มี โค้ชเตี้ย สะสม พบประเสริฐ คุมทีมในตอนนั้น ก่อนจะพ่ายไป ต่อมาก็ย้ายไปคุมทีม สระบุรี เอฟซี ที่อยู่ในดิวิชั่น 2 ก่อนจะพาทีมเลื่อนชั้นสู่ไทยลีกสำเร็จ ต่อมาก็ย้ายไปคุมอินทรีเพื่อนตำรวจ แบบนำโด่งไม่ตกอันดับเลยในศึก ดิวิชั่น 1 ในปี 2014 ทำทีมได้แชมป์จนได้สิทธิ์เลื่อนชั้นมาเล่นไทยลีก และล่าสุดก็ได้คุมทีมเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ในปี 2016 เพียงแค่ปีแรกก็สามารถพาทีมครองแชมป์ไทยลีกสมัยที่ 4 ของสโมสรได้อย่างยิ่งใหญ่ ผู้รักษาประตู: “เจ้าแชมป์” ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน “เจ้าแชมป์” ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน อยู่เฝ้าเสากับทีมระหว่างปี 2008-2009 ซึ่งเป็นนายทวารมือหนึ่งของทีมในยุคโค้ชแบน ได้เข้าชิงถ้วยเอฟเอ คัพ 2009 เจอกับ การท่าเรือ เอฟซี แต่ก็แพ้ไป ก่อนที่ในเวลาต่อมาย้ายไปซบอกการไฟฟ้าฯ ในปี 2010 ที่ “เสี่ยเน” เนวิน ชิดชอบ เป็นผู้มาเทกโอเวอร์ทีม ก่อนจะมาเปลี่ยนชื่อเป็น บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในเวลาต่อมา โดย “เจ้าแชมป์” มีส่วนสำคัญในการช่วยทีมคว้าแชมป์ไทยลีกได้ 4 สมัย, เอฟเอ คัพ 2 สมัย, ลีก คัพ 4 สมัย และ ถ้วยพระราชทาน ก.
2531 –) เป็นนักฟุตบอลชาวไทย ปัจจุบันลงเล่นตำแหน่งกองกลาง / แบ็กขวาให้กับราชบุรี เขาเป็นนักเตะที่สามารถคว้าแชมป์ไทยลีกสูงที่สุด รวมทั้งสิ้น 8 ครั้ง โดยเป็นการคว้าแชมป์ร่วมกับเมืองทอง ยูไนเต็ด 1 ครั้ง และอีก 7 ครั้งกับบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด สโมสร[แก้] บีอีซี เทโรศาสน[แก้] จักรพันธ์เริ่มเล่นฟุตบอลอาชีพกับบีอีซี เทโรศาสน โดยเขาถูกจับไปเล่นในตำแหน่งแบ็กขวาและกองกลางฝั่งขวา เพราะในตอนนั้น สโมสรมีผู้เล่นในตำแหน่งกองกลางตัวกลางมากพอแล้ว เมืองทอง ยูไนเต็ด[แก้] ใน พ. 2553 จักรพันธ์ย้ายไปเมืองทอง ยูไนเต็ด เขาทำผลงานได้ดีและมีส่วนช่วยให้สโมสรชนะเลิศไทยพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2553 นอกจากนี้ เขายังได้รับการโหวตให้เป็นนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมของสโมสรในฤดูกาลนั้นด้วย บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด[แก้] ในเดือนธันวาคม พ.
(((สตรีมมิ่ง###))) เมืองทอง กับ การท่าเรือ เอฟซี | Profile ... ทีมได้คว้าตัวผู้เล่นระดับทีมชาติไทยมาเสริมทัพอีกสองราย ได้แก่ ธีราทร บุญมาทัน ที่แยกทางกับทีมคู่ปรับอย่างบุรีรัมย์ และอดิศร พรหมรักษ์ จากบีอีซี